การเป็นเจ้าของโรงงาน เปรียบเทียบกับ การเช่า มีประโยชน์ข้อได้เปรียบและเสียเปรียบที่แตกต่างกันออกไป ผู้ประกอบการต้องพิจารณาว่า วิธีการแบบไหนตอบสนองความต้องการได้ดีที่สุด ตัวอย่างข้อดีและข้อเสีย มีดังนี้
- การเช่าโรงงานใช้เงินทุนน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการสร้างใหม่ (less capital requirement) การสร้างโรงงานใหม่จะต้องใช้เงินทุน หรือ เงินกู้ยืมในจำนวนที่มากขึ้น ผู้ประกอบการวิสาหกิจกลุ่มใหม่ (startup) และ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) สามารถใช้วิธีเช่าโรงงาน แทน การสร้างใหม่ เพื่อลดจำนวนเงินที่ใช้ในการเงินลงทุน และหรือเงินกู้ยืม
- การเช่าโรงงานสามารถประหยัดเวลาได้ค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับการสร้างโรงงานใหม่ (save on time and preliminary) ผู้ประกอบการวิสาหกิจกลุ่มใหม่ (startup) และ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) สามารถเลือกหาโรงงานสำเร็จรูปให้เช่า ซึ่งมีให้เลือกมากมายในพื้นที่ต่างๆ และเมื่อตกลงในเงื่อนไขการเช่าและรายละเอียดแล้ว ผู้ประกอบการสามารถออกแบบการติดตั้งเครื่องจักร และไลน์การผลิตได้ทันที โดยไม่ต้องรอการสร้างโรงงานขึ้นใหม่ และขึ้นอยู่กับการเจรจาต่อรอง ผู้ประกอบการโรงงานให้เช่าบางราย ยังให้เวลาแก่ผู้เช่าในการปรับปรุงพื้นที่และติดตั้งเครื่องจักรโดยไม่คิดค่าเช่าภายในหนึ่ง ถึง สองเดือนแรก ซึ่งนอกจากผู้เช่าจะประหยัดเวลาได้บางส่วนแล้ว ยังสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกส่วนหนึ่ง
- การเช่าโรงงานสามารถช่วยในการบริหารกระแสเงินสดของผู้ประกอบการ (enhance working capital and liquidity) เนื่องจากผู้ประกอบการมีเงินทุนที่เป็นทรัพยากรที่สำคัญและมีเป็นจำนวนจำกัด การบริหารสภาพคล่อง หรือ กระแสเงินสดจึงมีความสำคัญที่จะต้องบริหารด้วยความระมัดระวัง ให้มีจำนวนที่เพียงพอต่อการดำเนินงาน และให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด การบริหารกระแสเงินสด หรือ สภาพคล่องให้เป็นบวก (positive cashflow) หรือ มีสภาพคล่องส่วนเกิน (surplus funds) จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกองค์กรในหนทางไปสู่ความสำเร็จ ดังนั้น การบริหารจัดการสภาพคล่อง และกระแสเงินสดให้มีเพียงพอสำหรับรายจ่ายประจำวัน ค่าใช้จ่ายประจำเดือน และการขยายระยะเวลาการชำระเงินค่าสินค้าให้แก่คู่ค้านั้น จึงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถมองข้ามได้
- การเช่าโรงงานสามารถช่วยผู้ประกอบให้มีความยืดหยุ่น (flexibility) ในการเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ ในปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ (business disruption) สามารถเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงวิถีการทำธุรกิจที่เกิดขึ้นจากเทคโนโลยีใหม่ นวัตกรรมใหม่ หรือ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค เป็นต้น ผู้ประกอบการที่เช่าโรงงานจึงต้องมีความยืดหยุ่น หากมีความจำเป็นในการต้องเปลี่ยนสถานที่ประกอบการให้อยู่ใกล้เคียงกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายใหม่ หรือ ใกล้แหล่งวัตถุดิบใหม่มากยิ่งขึ้น (relocation) นอกจากนี้ผู้ประกอบการที่เช่าโรงงานยังต้องมีความยืดหยุ่น ในการลดขนาด หรือ เพิ่มขนาด (downsize or upside) พื้นที่ใช้สอยของโรงงานได้

